วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

>>Noël<<


Noël est une fête chrétienne célébrant chaque année la naissance de Jésus de Nazareth, appelée Nativité.
Sa célébration à la date du 25 décembre a été fixée tardivement dans l'empire romain d'Occident, vers le milieu du IVe siècle. La royauté du Christ n'étant pas de ce monde, certains comme Origène (milieu du IIIe siècle) refusent de célébrer cette naissance ainsi qu'on le faisait à l'époque pour un souverain temporel (roi, empereur, pharaon,reine). Avant de la placer à la date d'une célébration solaire liée au solstice d'hiver plusieurs dates furent proposées : 18 novembre, 6 janvier... Le 25 décembre marquait depuis Aurélien (v.270) l'anniversaire du Sol Invictus et de la renaissance annuelle de Mithra. Pour des raisons symboliques, et dans un souci de christianiser les anciennes fêtes païennes, cette date fut progressivement étendue à tout l'occident latin. Les Églises orthodoxes, qui suivent le calendrier julien, célèbrent Noël le 6 janvier, mais seule l'Église Arménienne a conservé la date précise du 6 janvier comme jour de la fête de Noël,
Constituant avec Pâques une des grandes fêtes chrétiennes, Noël s'est progressivement chargé de traditions locales, mélanges d'innovations et de maintien de folklore ancien, au point de présenter l'aspect d'une fête profane populaire possédant de nombreuses variantes, dans le temps comme dans l'espace. L'association de la mémoire d'une naissance a facilité la place centrale prise par la famille dans le sens et le déroulement de cette fête. L'Église catholique romaine insiste par exemple sur cet aspect depuis l'instauration en 1893 de la fête de la Sainte Famille, le dimanche suivant le 25 décembre. Les cadeaux, sous forme d'étrennes, semblent être une réminiscence des cadeaux effectués lors des fêtes saturnales de décembre (strenae) Le don est présent dans de nombreuses traditions, comme celle de servir une repas au premier pauvre croisé au jour de Noël, ou dans l'exceptionnelle générosité des aumônes accordées aux mendiants à la sortie de l'office célébré durant la nuit de Noël. « La période de Noël, qui est très chargée cérémoniellement, possède une certaine intensité rituelle. Même si nous vivons fondamentalement dans une société marchande, il y a dans cet échange de cadeaux quelque chose qui est de l'ordre du don et qui est universel dans son principe: ils créent, maintiennent et consolident des liens; ils constituent en quelque sorte une matrice du social.».
La popularité de cette fête a fait que Noël est devenu un patronyme et un prénom.

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

>>อักษรเบรลล์ <<

อักษรเบรลล์ คือ ระบบการเรียนหนังสือสําหรับคนตาบอดซึ่งใช้การรวมกลุ่มของจุดนูนลงบนกระดาษอ่านโดยการสัมผัสด้วยปลายนิ้วมือ ระบบการอ่านเขียนหนังสือสำหรับคนตาบอดนี้ได้คิดประดิษฐ์ โดย หลุยส์ เบรลล์ นักเรียนชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2367 จุดขีดนูนบนกระดาษแข็งซึ่ง เรียกว่า โชโนกราฟี่ (Sonography) มีลักษณะเป็นจุดนูนเล็ก ๆ ใน 1 ช่องประกอบด้วยจุด 6 ตำแหน่ง ซึ่งนำมาจัดสลับกันไปมาเป็นรหัสแทนอักษรตาดีหรือสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โน๊ต ดนตรี ฯลฯ การเขียนใช้เครื่องมือเฉพาะเรียก สเลท (Slate) และดินสอ (Stylus)การพิมพ์ใช้เครื่องพิมพ์เรียก เบรลเล่อร์ (Brailler) ใช้กระดาษหนาขนาดกระดาษวาดรูป ตัวอย่างรูปแบบอักษรเบรลล์ภาษาอังกฤษ
ภาพอักษรเบรลล์ใน 1ช่อง


วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551

>>>ข่าวดี!! คนไทยจะได้เห็น พระจันทร์ยิ้ม อีกปีหน้า<<<


ข่าวดี คนไทยจะได้เห็น "จันทร์ยิ้ม" อีก 23 เมษายนปีหน้า
นายนิพนธ์ ทรายเพชร ราชบัณฑิตทางด้านดาราศาสตร์ และผู้วชาญด้านดาราศาสตร์ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กล่าวว่า หลังจากคนไทยทั่วประเทศได้เห็น "จันทร์ยิ้ม" หรือคำถูกต้องที่ใช้เรียกปรากฏการณ์นี้คือ "การร่วมทิศของดวงจันทร์กับดาวเคราะห์" หรือชาวบ้านเรียกว่า "ดาวเคียงเดือน" ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลาหัวค่ำของวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเห็นดวงจันทร์เป็นริมฝีปากของคนกำลังยิ้ม มีดาวศุกร์เป็นตาซ้ายที่สว่างกว่าดาวพฤหัสบดีที่เป็นตาขวา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า คนไทยจะได้เห็นปรากฏการณ์จันทร์ยิ้มอีกครั้ง ในวันที่ 23 เมษายน 2552 เวลา 05.10 น. ดาวศุกร์จะเป็นดาวรุ่งอยู่ใกล้ดาวอังคาร และดวงจันทร์เสี้ยวข้างแรมแก่ๆ อยู่ด้านล่าง ดูเป็นรูปคนยิ้ม เหมือนกันทางทิศตะวันออก โดยตาซ้ายยังเป็นดาวศุกร์และตาขวาเป็นดาวอังคาร ในขณะที่ดาวพฤหัสบดีสว่างอยู่สูงกว่า

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2551

>>วันพ่อแห่งชาติ<<

วันพ่อแห่งชาติ เป็นวันสำคัญสัมพันธ์กับวันแม่แห่งชาติ ในการฉลองความเป็นพ่อและบุคคลที่นับถือในการเป็นพ่อ วันพ่อแห่งชาตินั้นทั่วโลกจะมีการจัดแตกต่างกันไป โดยในประเทศไทยจัดตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี โดยในกว่า 50 ประเทศจะจัดวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน
จอห์น บี. ดอดด์ ชาวอเมริกันเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดของวันพ่อแห่งชาติ โดยเริ่มต้นที่เมืองแฟร์มอนต์ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ในโบสถ์แห่งหนึ่งในแฟร์มอนต์
วันพ่อแห่งชาติในแต่ละประเทศ
19 มีนาคม - สเปน โปรตุเกส อิตาลี
8 พฤษภาคม - เกาหลีใต้
5 มิถุนายน - เดนมาร์ก
วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน - ญี่ปุ่น อาร์เจนตินา ไอร์แลนด์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
23 มิถุนายน - โปแลนด์
อาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม - บราซิล
อาทิตย์แรกของเดือนกันยายน - ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
อาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน - ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน
5 ธันวาคม - ไทย
วันพ่อแห่งชาติในประเทศไทย
วันพ่อแห่งชาติในประเทศไทยตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจัดติดต่อกันทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2523 โดยการริเริ่มของ นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา คุณหญิงเนื้อพิทย์ เสมรสุต สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันพ่อได้แก่ ดอกพุทธรักษาซึ่งมีชื่ออันเป็นมงคล
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ในประเทศไทย นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังถือว่าวันนี้ เป็น “วันชาติของไทย” อีกด้วย

ประวัติ
วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ “พ่อแห่งชาติ” ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ ทรงเป็น "พ่อ" ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา อีกทั้งยังทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงขจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น “พ่อแห่งชาติ” ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้วัฒนาถาวรสืบไป

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

>>วันเอดส์โลก 1 ธันวาคม ของทุกปี<<



โรคเอดส์เริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยการก่อตัวขึ้นในบางส่วนของโลกและเป็นอยู่ในหมู่ชนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการตรวจพบโรคนี้ทั่วโลก และอัตราผู้ป่วยโรคเอดส์เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา
สำหรับในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มมีโรคเอดส์เกิดขึ้นในประเทศตามรายงานครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๓ จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคเอดส์มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้รัฐบาลจะประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบให้มีคณะกรรมการประสานงานเกี่ยวกับโรคเอดส์แห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายและแผนการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ระดับชาติสำหรับปี ๒๕๓๑-๒๕๓๔ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเอดส์ลดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ให้มีการประสานและร่วมมือกันระหว่างองค์การทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน แต่สถานการณ์ของโรคกลับแพร่กระจาย มากขึ้นและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กล่าวคือ เป็นที่เข้าใจกันว่าโรคนี้เกิดเฉพาะในกลุ่มชายรักร่วมเพศ กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาเข้าเส้นร่วมกัน และกลุ่มที่มีความสำส่อนทางเพศ แต่ในปัจจุบันโรคนี้ได้แพร่กระจายเข้าไปในกลุ่มอื่นๆ ด้วย เช่น ผู้ที่ได้รับการบริจาคเลือดหรืออวัยวะที่มีเชื้อโรคเอดส์ ทารกในครรภ์มารดาที่ติดเชื้อเอดส์ และยังกระจายไปยังกลุ่มเยาวชน และผู้หญิงอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ทั่วโลกของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ไว้ว่าในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ทั่วโลกมีผู้เป็นเอดส์ทั้งสิ้น กว่า ๓๘ ล้านคน
โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อโรคเอดส์นี้ เป็นผู้ใหญ่ประมาณ ๓๑ ล้านคน เด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี อีก ๗ ล้านคน ในปีเดียวกันทั่วโลก มีผู้ป่วยโรคเอดส์ตายไปกว่า ๓ ล้านคน อีกทั้งข้อมูลขอองยูเอ็นเอดส์ยังระบุอีกว่า ตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิง เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะผู้หญิงในเอเชียตะวันออก มีอัตราของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๕๖ รองลงมาคือ ผู้หญิงในยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี (ยังไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์) สูงถึง ๓๙.๔ ล้านคน เทียบกับเมื่อปี ๒๕๔๕ มีเพียง ๓๖.๖ ล้านคน และปี ๒๕๔๖ มีอยู่แค่ ๓๘ ล้านคน ปัจจุบันทวีปเอเชีย มีอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ ๕๐ ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก โดยในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นประเทศต้นๆที่ได้รับเชื้อเพิ่ม เฉพาะรัสเซียประเทศเดียว ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่ต่ำกว่า ๘๖๐,๐๐๐ คน ในบรรดาผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก เกือบ ๔๐ ล้านคน ผู้ติดเชื้อประมาณ ๓๗ ล้านคน มีอายุระหว่าง ๑๕-๔๙ ปี ในจำนวนนี้เป็น เพศหญิง เกือบครึ่ง โดยเฉพาะผู้หญิงทั่วโลก ที่อยู่ในวัยตั้งแต่ ๑๕-๒๔ ปี กลายเป็นเหยื่อเอดส์รายใหม่ เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ ๖๐ และเยาวชนหญิง วัยระหว่าง ๑๕-๑๙ ปี เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ ร้อยละ ๕๖ มีรายงานว่า เฉพาะทวีปแอฟริกา แถบทะเลทรายซาฮารา พบการติดเชื้อเอชไอวีในผู้หญิงสูงถึง ๑๓.๓ ล้านคน
ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อ และการป่วยเป็นโรคนี้จึงได้มีการพยายามหามาตรการเพื่อป้องกันและหยุดยั้งโรคเอดส์ให้เป็นผลสำเร็จ
องค์การอนามัยโลกจึงได้กำหนดให้วันที่ ๑ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๑ เป็นปีแรก โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ คือ
๑. เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อและการเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์
๒. เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนให้มีมาตรการการป้องกันให้มากยิ่งขึ้นในสังคมทุกระดับ
๓. เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมต่อต้านต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
๔. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ
๕. เพื่อเผลแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันเอดส์โลก จะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนได้ให้ความเห็นใจและห่วงใยต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย ตลอดจนให้ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ อันจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะทำให้การขยายตัวของโรคนี้ลดน้อยลง

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

>>Time machine เป็นไปได้จริงเหรอ<<


หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่าไทม์แมชชีนกันมาบ้างและแหละเน้อ วันนี้ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับไทม์แมชชิน เริ่มตั้งแต่ยุคแรกเรยและกานเน้อ

นับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้มีการนำเรื่องนี้ไปเปิดประเด็นถกเถียงกันอยู่ตลอดเวลา ตลอดจนมีนิยาย หนังสือ รวมไปถึงภาพยนตร์ที่มี ไทม์ แมชชีนเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่มากมายเลยครับ มันเป็นความฝันสำหรับนักวิทยาศาตร์ และ ความอยากรู้อยากเห็นของบรรดาผู้อยากที่จะรู้อดีต ทำนายอนาคต เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ที่ยังคงรอการพิสูจน์-และทำให้มันเป็นจริงขึ้นมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน … กับ เครื่องจักรพิศวง ไทม์ แมชชีน
บรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของโลกที่กำลังทุ่มเทการวิจัยเรื่องนี้กันอย่างหนัก ก็เริ่มมีเค้าของความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นมากสำหรับเรื่อง ไทม์ แมชชีนหรือการท่องเวลาออกมากันบ้างแล้ว โดยบรรดานักวิจัยจากแคลิฟอร์เนียและกรุงมอสโควเค้าประกาศออกมาแล้วว่า การท่องเวลา (Time Travel) นั้น มีความเป็นไปได้อยู่ทีเดียว !! ซึ่งพวกเค้าได้สร้างห้องแล็ปที่เรียกว่า TARDIS ขึ้นมา และเริ่มทดลองโดยนำพื้นฐานมาจากสมการของนักฟิสิกส์เอกของโลก อัลเบิร์ท ไอนสไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยา-ศาสตร์กลุ่มนี้กล่าวว่ามันอาจยากมากในการวิจัยและทดลองให้มันเป็นจริงหรือใกล้ความจริง แต่ก็มีความเป็นไปได้มาก

บางทีอาจจะดูเหมือนเป็นการฝืนกฎของธรรมชาติ ที่บัญญัติเอาไว้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องดำเนินครรลองไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะกระทำตัวเหนือธรรมชาติ-อย่างนี้ แน่นอนว่าธรรมชาตินั้นมีสิทธิ์ขาดในการดูแลจัดสรรปันส่วนทุกอย่างบนโลกนี้ได้อย่างลงตัวและถูกต้องมากที่สุดแล้ว กระนั้นมนุษย์เราก็ยังอาจหาญที่จะฝืนธรรม -ชาติในกฎเกณฑ์หลายๆอย่าง เช่น การตัดต่อพันธุกรรมซึ่งกระทำตนประดุจเป็นพระเจ้า เริ่มจะสร้างเครื่องข้ามเวลาและการคิดค้นยาอายุวัฒนะ ซึ่งเป็นกฎเหล็กของธรรมชาติที่มนุษย์เราไม่ควรฝ่าฝืน การท่องเวลานั้นบางทีฟังดูเหมือนว่ามันจะเป็น สิ่งที่ขัดแย้งกันเอง (Paradoxes) อยู่ในหลายๆด้าน คุณลองจินตนาการดูว่าวันหนึ่งเรานั้นสามารถที่จะประดิษฐ์เครื่องไทม์ แมชชีนได้สำเร็จและเดินทางย้อนไปยังอดีต และเกิดนึกสนุกขึ้นมาทำให้คุณพ่อคุณแม่ของเราไม่ได้พบกัน และทำให้เราไม่ได้เกิดขึ้นมา -และพอเรากลับมายังอนาคต ซึ่งเราก็ยังเป็นตัวเราอยู่ ?? ดูแล้วมันออกจะแปลกๆ ในเมื่อเราในอดีตไม่ได้เกิดมา แล้วตัวเราในอนาคตหรือในขณะนี้นั้นเป็นใคร ?? เป็นไปได้หรือไม่ว่า อาจจะมีอนาคตของหลายๆ มิติอนาคต ซึ่งจะแยกย่อยออกไปตามเหตุการณ์ที่เจอหรือเกิดขึ้นตามแต่ละมิติเวลาในช่วงนั้น

จากความคิดตรงนี้ละครับที่ทำให้มันดูเหมือนว่า การย้อนเวลาขัดแย้งกันเองด้วยกฎของธรรมชาติ อย่างที่ว่าไป ถ้าคิดในอีกแง่หนึ่งก็คือ อดีต เป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ เราไม่สามารถทำอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้แล้ว อาจจะคิดได้ในแง่ว่าช่วงเวลาของอดีตหรือของอนาคตที่มีนั้นมีอยู่เพียงมิติเดียว แต่ถ้ามีอยู่หลายมิติเวลาล่ะก็เป็นอีกเรื่องนึง !!! ส่วนที่กล่าวไปก็คือ กลุ่มที่มีข้อโต้เถียงเรื่องที่ว่าการท่องเวลานั้นเป็นไปไม่ได้นั่นเอง

ได้มีการสันนิษฐานกันว่า มันน่าจะเป็นประตูเชื่อมกันระหว่างจักรวาลกับจักรวาล เวลากับเวลาและมิติกับมิติ ซึ่งตรงกลางภายในรอยต่อเชื่อมนี้หรือโพรงนี้อาจจะมีการบิดเบี้ยวของบรรยากาศเกิดซึ่งเกิดจากบางสิ่ง หรือก็คือ Singularity ที่ได้กล่าวไปนั่นเอง ซึ่งตรงนี้เองอาจจะทำให้เกิดรอยต่อของมิติขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของทางออก และ -อาจทำให้เกิดการ วาร์ป (Warp) ผ่านจักรวาล และเวลาได้ แต่หลุมดำไหนล่ะที่จะเป็นประตูมิติเวลา และ หลุมดำไหนล่ะที่จะเป็นสุสานของจักรวาล ?? คำถามนี้ก็ต้องรอคำตอบกันไปก่อน ส่วนถ้าคิดต่อไปอีก ก็คงจะเป็นเรื่องที่ว่า แล้วเราจะ "ควบคุม" หลุมหรือช่วงเวลาหรือการบิดเบี้ยวของช่องมิติได้ยังไง ?? หรือจะให้ไปโผล่ยังจุดที่ต้องการได้ยังไงล่ะ ?? คำตอบน่ะเหรอครับ ก็คงต้อง"รอ" กันไปก่อน


วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระพี่นาง สมเด็จพระพี่นาง


เพลง แสงหนึ่ง เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ฯ





เนื้อเพลง แสงหนึ่ง - บอย โกสิยพงษ์ feat. นภ พรชำนิ
รู้ไหมว่าเราซาบซึ้งใจแค่ไหน และรู้ไหมว่าเรานั้น
ปลาบปลื้มเท่าไหร่ ที่ได้มีเธอ เป็นพลังอันสำคัญ
เพราะว่าเรานั้นรู้เธอทำเพื่อใคร เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน
เธอไม่ไหวหวั่น เพื่อที่จะให้เรานั้นได้เดินต่อไป
* แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ แต่ว่าสำหรับเรานั้น...
** เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเช่นไร วันและคืนจะหมุนเปลี่ยนสักเท่าไหร่
เรานั้นก็แน่ใจ ว่าจะมีเธอยืนอยู่ข้างหลัง
(Repeat *,**)
จึงอยากขอมอบเพลง เพลงนี้ให้
ให้เธอรับรู้ว่าสำหรับเรา เธอสำคัญเพียงไหน

เธอเป็นดั่งแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที เปรียบเธอกับแสง
แม้ไม่มีสี แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด . . . .
<< ขอพระองค์จงสถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยทุกคน>>

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

===> ปริศนาภาพวาดโมนา ลิซ่า (Mona Lisa) <===

===> ปริศนาภาพวาดโมนา ลิซ่า (Mona Lisa) <===


กว่า 500 ปีมากแล้วกับคำถามที่ว่า โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) นั่นเป็นใคร ซึ่งยังเป็นปริศนา และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนและแน่นอน ว่าบุคคลในภาพเขียนของ ลีโอนาร์โด ดา วินซี่ (Leonardo da vin Ci 1452-1519) คือใครกันแน่ ภาพนี้วาดขึ้นราวๆ ค.ศ. 1503-1506 โดยแฝงรอยยิ้มที่ลึกลับ น่าเคลือบแคลง ไปด้วยปริศนามากมายลงบนใบหน้าของ โมนา ลิซ่า ให้ผู้คนได้นึกคิด จินตนาการกันไปต่างๆ นานา ยาวนานถึง 5 ศตวรรษ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน คำถามที่ผู้คนสงสัย และได้ค้นคว้าหาคำตอบกันอย่างมากมาย ก็คือ โมนา ลิซ่า คือใคร?
ตามคำบอกเล่าของ "จิออร์โอ วาซารี" (Giorgio Vasari 1511-1574) จิตรกร สถาปนิก และ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับศิลปะในสมัยนั้น เขากล่าวไว้ว่า โมนา ลิซ่า ก็คือภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด ซึ่งเป็นพ่อค้าไหมที่มั่งคั่งแห่ง เมืองฟลอเรนซ์ ขณะที่ ดาวินซี่ เขียนภาพนี้ซึ่งได้ใช้เวลานานถึง 4 ปี เขาได้ไปว่าจ้าง นักร้อง นักดนตรี และตัวตลกมาให้ความบันเทิงแก่หญิงงามผู้เป็นแบบของ ภาพเขียน เพื่อให้เธอมีรอยยิ้มที่ปราศจากความเศร้าหมอง อย่างไรก็ตามจากคำ บรรยายของ วาซารี ก็เป็นเพียงข้อมูลจากผู้ที่ไม่เคยเห็นภาพเขียนนี้ของ ลีโอนาร์โด แต่อย่างใด
แม้ว่าบุคคลในภาพ โมนา ลิซ่า ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ครอบครองภาพนี้ยังพอมีข้อมูลอยู่บ้าง นั่นก็คือ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ลีโอนาร์โด ไม่ยอมพรากจากภาพเขียนนี้ และเขาได้นำติดตัวพร้อมกับทรัพย์สินสินมีค่าอื่นๆที่เขารัก หวงแหน ออกจากกรุงโรมเมื่อครั้งเดินทางมาที่ฝรั่งเศสเพื่อเป็นศิลปินแห่งราชสำนักของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 (ค.ศ. 1479-1547) ใน ค.ศ. 1517 ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ครอบครองภาพ โมนา ลิซ่า คนแรกก็คือกษัตริย์ฝรั่งเศส ซึ่งโปรดให้นำภาพไปประดับที่ห้องสรงในพระราชวัง ฟองแตนโบล แต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนขึ้นครองราชย์ ภาพโมนา ลิซ่า จึงถูกย้ายมาพำนักในห้องพระบรรทม และมีชื่อเรียกอย่าง สนิทสนมว่า "มาดาม ลิซ่า"
อันที่จริงแล้ว ลักษณะรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า ที่มีการตีความไปต่างๆนานานั้น สามารถ พบเห็นได้ในภาพเขียนอื่นๆของ ดาวินซี่ เองเช่น รอยยิ้มที่แฝงความอ่อนโยนและการุณย์ ของเซนต์แอนน์ หรือพระแม่มารี หรือแม้กระทั่งรูปปั้นในยุคโบราณของกรีก ในศตรวรรษที่ 19 มีผู้เห็นว่าภายใต้รอยยิ้มยากที่จะหยั่งลึกของ โมนา ลิซ่า นี้กลับแฝงไว้ด้วย ปริศนาอมตะ แห่งอิสตรี ส่วนนักจิตวิเคราะห์อย่าง ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund freud) ก็ตีความหมายว่า "ลีโอนาร์โดหลงไหลรอยยิ้มของ โมนา ลิซ่า" เพราะมันคือสิ่งที่หลับไหล ภายในจิตใจ และความทรงจำในอดีตของเขาที่ผ่านมานานแล้ว รอยยิ้มนี้ถอดแบบพิมพ์ มาจากคาเตรีนาผู้ที่เป็นมารดา สำหรับนักสุนทรียศาสตร์อย่าง วอลเทอร์ เพเทอร์ (Walter Pater) พรรณนาไว้ว่า "เธอมีอายุแกกว่าหินผาที่ห้อมล้อมเธอ ประดุจหนึ่งปีศาจดูดเลือด เธอได้ตายมาแล้วหลายคราและหยั่งรู้ความลึกลับแห่งหลุมศพ"
พอมาถึงต้นศตรวรรษที่ 20 ผู้คนรุ่นใหม่ๆ เกือบที่จะไม่ได้แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และทัศนคติต่อโมนา ลิซ่า เสียแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1974 โมนาลิซ่าถูกนำไปแสดงที่กรุง มอสโก และโตเกียว โดยเฉพาะที่ โตเกียวมีผู้คนมาเข้าแถวชมเพื่อยลโฉมเธอถึง 2 ล้านคนในช่วงเวลาแค่ 3 เดือน

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Astro Boy เจ้าหนูปรมาณู

Astro Boy


Astro Boy (鉄腕アトム, Tetsuwan Atomu?, lit. "Mighty Atom") is a Japanese manga series and television program first broadcast in Japan from 1963 to 1966. The story follows the adventures of a robot boy and a selection of other characters along the way.
Astro Boy is the first Japanese television series that embodied the aesthetic that later became familiarized as anime. It originated as a manga in 1952 by Osamu Tezuka, who is often reputed as the "god of manga". After enjoying success abroad, Astro Boy was remade in the 1980s as Shin Tetsuwan Atomu, known as Astroboy in the United States and other Western countries, and again in 2003. In November 2007, he was named Japan's envoy for overseas safety.







Astro Boy is a sci-fi series set in a futuristic world where androids co-exist with humans. Its focus is on the adventures of the titular "Astro Boy" (or simply "Astro"), a powerful robot created by the head of the Ministry of Science Doctor Tenma to replace his son Tobio, who died in a car accident, Dr. Tenma built Astro in Tobio's image and treated him as lovingly as if he were the real Tobio, but soon realized that the little android could not fill the void of his lost son, especially since Astro could not grow or express human aesthetics (in one set of panels, Astro is shown preferring the mechanical shapes of cubes over the organic shapes of flowers). In the original 1960 edition, Tenma rejected Astro and sold him to a cruel circus owner, Hamegg, who abused the performers.
While Astro languished in Hamegg's circus, Professor Ochanomizu, the new head of the Ministry of Science, noticed Astro Boy performing in the circus. He managed to make Hamegg turn Astro over to him. He brought Astro along and treated him gently and warmly, becoming his legal guardian. He soon realized that Astro was gifted with superior powers and skills, as well as the ability to experience human emotions.
Astro then fought crime, evil and injustice. Most of his enemies were robot-hating humans, robots gone berserk, or alien invaders. Almost every story included a big robot battle involving Astro. The series explored issues of morality, responsibility, racism, prejudice, true heroism, and loss

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Sherlock Holmes

Sherlock Holmes



Sherlock Holmes est un personnage de roman policier créé par Sir Arthur Conan Doyle en 1887. Détective privé doté d'une mémoire remarquable pour tout ce qui peut l'aider à résoudre des crimes en général, il a très peu de savoirs dans les autres domaines de la connaissance. Lors de ses enquêtes, plusieurs relatées dans les 4 romans et les 56 nouvelles qui forment ce qu'on appelle le canon, il est fréquemment accompagné du Docteur Watson.
L'existence, imaginaire, de Sherlock Holmes doit beaucoup au docteur et professeur en chirurgie Joseph Bell, dont les déductions étonnantes sur les patients et leurs maladies impressionnaient Doyle.
En 1959, d’après un sondage de la BBC, 59 % des Britanniques croyaient qu’il avait réellement existé.

เชอร์ล็อก โฮลมส์ (อังกฤษ: Sherlock Holmes) เป็นนวนิยายสืบสวนหรือรหัสคดี ประพันธ์โดยนักเขียนและนายแพทย์ชาวสก็อต คือ เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตัวละคร เชอร์ล็อก โฮลมส์ เป็นนักสืบชาวลอนดอนผู้ปราดเปรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการประมวลเหตุและผล โดยอาศัยหลักฐานและการสังเกตอันคาดไม่ถึงเพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ
โคนัน ดอยล์ แต่งเรื่องเชอร์ล็อก โฮลมส์ ไว้ทั้งสิ้นเป็นเรื่องยาว 4 เรื่อง และเรื่องสั้น 54 เรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นการบรรยายโดยเพื่อนคู่หูของโฮลมส์ คือ ดร. จอห์น เอช. วัตสัน หรือ หมอวัตสัน ในจำนวนนี้ มี 2 เรื่องที่โฮลมส์เป็นผู้เล่าเรื่องเอง และอีก 2 เรื่องเล่าโดยบุคคลอื่น เรื่องสั้นสองเรื่องแรกตีพิมพ์ใน Beeton's Christmas Annual ในปี ค.ศ. 1887 และ Lippincott's Monthly Magazine ในปี ค.ศ. 1890 แต่หลังจากที่ชุดเรื่องสั้นลงพิมพ์เป็นคอลัมน์ประจำใน นิตยสารแสตรนด์ เมื่อปี ค.ศ. 1891 นิยายเรื่องนี้ก็โด่งดังเป็นพลุ เหตุการณ์ในนิยายอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1878 ถึง ค.ศ. 1903 และคดีสุดท้ายเกิดในปี ค.ศ. 1914
เมื่อถูกถามว่า เชอร์ล็อก โฮลมส์มีตัวตนจริงหรือไม่ โคนัน ดอยล์ มักตอบว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเชอร์ล็อก โฮลมส์ มาจากนายแพทย์โจเซฟ เบลล์ ผู้ซึ่งดอยล์เคยทำงานด้วยที่โรงพยาบาลเอดินเบิร์กรอยัล นายแพทย์เบลล์มีความสามารถในการหาข้อสรุปจากความสามารถในการสังเกตรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับเชอร์ล็อก โฮลมส์ นอกจากนี้นายแพทย์เบลล์ยังมีความสนใจในอาชญากรรมและเคยช่วยเหลือตำรวจในการคลี่คลายคดีต่างๆ ด้วย
ความโด่งดังของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหา มีพิพิธภัณฑ์เชอร์ล็อก โฮลมส์ ตั้งขึ้นในตำแหน่งที่น่าจะเป็นบ้านในนวนิยายของเขาในกรุงลอนดอน นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นสำหรับตัวละครในนิยาย เรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮลมส์ มีการนำไปดัดแปลงและแต่งเพิ่มเติมขึ้นใหม่อีกโดยนักเขียนคนอื่น ทั้งที่เขียนร่วมกับทายาทของโคนัน ดอยล์ และเขียนขึ้นใหม่เป็นเอกเทศ บทประพันธ์ของโคนัน ดอยล์ และนวนิยายที่แต่งขึ้นใหม่ ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ และสื่ออื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเชอร์ล็อก โฮลมส์ ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊คว่าเป็น "ตัวละครที่มีผู้แสดงมากที่สุด" ภาพลักษณ์ของโฮลมส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบ และส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมและการแสดงในประเภทรหัสคดีจำนวนมาก

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ที่สุดของโลกในประเทศไทย

รู้หรือไม่ "ที่สุดของโลกในประเทศไทย มีอะไรบ้าง

๑. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองศิริราชสมบัติยาวนานที่สุดในโลก

๒. ชื่อเดิมของกรุงเทพมหานคร เป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก

๓. วัตถุมงคลที่มีราคาสูงสุด ได้แก่ พระพุทธรูปทองคำที่วัดไตรมิตร กรุงเทพมหานคร

๔. นักเปตองหญิงชาวไทย ชนะเลิศการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลกถึง ๒ ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ และ ๒๕๓๓

๕. นักสนุกเกอร์ไทย “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ทำแต้มได้สูงสุดในการแข่งขัน คือ ๑๔๗ จุด

๖. ภัตตาคารใหญ่ที่สุดในโลก คือ มังกรหลวง ที่ถนนบางนา-ตราด บริกรสวมรองเท้าสเก็ตล้อเพื่อช่วยให้บริการได้รวดเร็ วทั่วถึง

๗. ปลาน้ำจืดตัวโตที่สุด คือ ปลาบึก จับได้ที่จังหวัดเชียงราย ยาว ๓ เมตร หนัก ๒๔๒ กิโลกรัม

๘. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กที่สุดในโลก คือ ค้างคาวกิตติ พบที่จังหวัดกาญจนบุรี ๙. ตั๊กแตนตัวโตที่สุดในโลกยาว ๒๕.๔ เซนติเมตร กระโดดได้ไกลถึง ๔.๖ เมตร พบที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

๑๐. ไข่มุกเม็ดโตที่สุด เส้นผ่าศูนย์กลาง ๔๐ มิลลิเมตรหนัก ๒๗.๖๕ กรัม พบที่ใกล้เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี

๑๑. ในเมืองไทยมีผู้ถูกตัดสินจำคุกนานถึง ๑๔๑,๐๗๘ ปี คือ นางชม้อย ทิพย์โส จากคดีแชร์น้ำมันแม่ชม้อย


ได้เวลาอัพบล็อกซัพที อิอิ <<ความรู้ อยากให้เพื่อนๆอ่านกัน>>

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551

และแล้ว วันนี้ ก็มาถึง

และแล้ว

วันนี้ วันที่ 10 ตุลาคม 2551

วันฟังผลสอบ 555+

เกรดออกแล้ว *-*


เศร้ามาก ๆ ๆ **

ฮือ ๆ ๆ TT^TT เทอมหน้า เอาใหม่

จะตั้งใจเรียนแล้วค๊า =/\=
อิอิ ^^

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เที่ยว Dream world มาจ้า ๆ ๆ

ดรีมเวิลด์ สวนสนุกระดับโลก


พวกเรา บ้าถ่ายรูปจ้า 55+


นี่ด้วย อีกคู่ 555+


การแสดงของน้องหมา และ น้อง ลิง


อยู่เมืองหิมะ หนาวสุดๆ -3.5 องศาแน่ะ


เบื้องหน้า การถ่ายภาพ <<ขาดอุ๋ย>>



และนี่ คือเบื้องหลังการไปเที่ยวของเรา ฮ่า ๆ ๆๆ ๆ<<เหมือนเดิม 55+>>

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

10 เกมอันตราย

10 เกมอันตราย
กรมสุขภาพจิตเผยสหรัฐฯจัด 10 เกมอันตรายพ่อแม่ควรเลี่ยงให้ลูกเล่น เกมฉาว GTA ติดอันดับ 1 แนะไทยควรจัดเรทติ้งเกมบ้าง หวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ แยกไม่ออกชีวิตจริงกับเกม ชี้ถึงเวลาโรงเรียนสอนทักษะชีวิตให้เด็ก เตรียมจัดเสวนา"สังคมไทยรู้เท่าทันเกม"

วันนี้ (4 ส.ค.) นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แถลงว่า สำหรับเกมจีทีเอ เป็น 1 ใน 10 เกมที่อัยการสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยเมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมาว่า ให้พ่อแม่ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการซื้อให้ลูกเล่น ประกอบด้วย
1.แกรนด์ เทฟต์ ออโต้ (GTA-Grand Theft Auto)
2.แมนฮันต์ (Manhunt)
3.สการ์เฟซ (Scarface)
4.ห้าสิบเซ็นต์ : บุลเลตพรูฟ (50 Cent : Bulletproof)
5.สามร้อย : เดอะวิดีโอ เกม (300 : The Video Game)
6.เดอะ ก็อดฟาเธอร์ (The Godfather)
7.คิลเลอร์ 7 (Killer 7)
8.เรสซิเดนต์ อีวิล 4 (Resident Evil 4)
9.ก็อด ออฟ วอร์ (God of War)
10.ฮิตแมน : บลัด มันนี่ (Hitman : Blood Money)

แกรนด์ เทฟต์ ออโต้ (GTA-Grand Theft Auto)

ห้าสิบเซ็นต์ : บุลเลตพรูฟ (50 Cent : Bulletproof)


แมนฮันต์ (Manhunt)

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

ไวน์ >>Vin<<



Le vin est une boisson alcoolisée obtenue par la fermentation du raisin, fruit des vignes (dont Vitis vinifera).

En Europe, selon la définition légale, le vin est le produit obtenu exclusivement par la fermentation alcoolique, totale ou partielle, de raisins frais, foulés ou non, ou de moûts de raisins[1].

La transformation du raisin en vin est appelée la vinification. L'étude du vin est l'œnologie (du grec œnos, "vin", et logos, "science").

Le secteur viticole se sépare en deux professions : les vignerons indépendants (représentés en France par les Vignerons Indépendants de France) qui assurent la production de leur vin, du cep de vigne à la mise en bouteille, en passant par la vinification et qui constitue la branche artisanale, et les viticulteurs coopérateurs qui n'effectuent pas la vinification.


Livres et livres des appellations

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

Enchanted


Enchanted มหัศจรรย์รักข้ามพิถพ




Enchanted is a 2007 musical film, directed by Kevin Lima and produced by Walt Disney Feature Animation and released by Walt Disney Pictures. It premiered on November 21, 2007 in Canada before it was released on November 23, 2007 in the United States. The film, both homage to and a self-parody of conventional Disney animated features, makes numerous references to Disney's past and future works, and blends live action filmmaking, traditional animation and computer-generated imagery. The plot focuses on Giselle, an archetypal Disney Princess who is forced from her 2D-animated world of Andalasia into real-life New York City.
The film heralds the return of traditional animation to a Disney feature film after the company's decision to move entirely to computer animation in 2004. Composer Alan Menken and lyricist Stephen Schwartz, who had written songs for previous Disney films, produced Enchanted's songs, with Menken also composing its score.
Starring Amy Adams, Patrick Dempsey, James Marsden, Timothy Spall, Idina Menzel, Rachel Covey, and Susan Sarandon, the film was well-received critically and garnered two nominations at the 65th Golden Globe Awards and three nominations at the 80th Academy Awards. The film also proved to be a commercial success, earning more than $340 million worldwide at the box office.





มหัศจรรย์รักข้ามภพ (Enchanted) เป็นภาพยนตร์อเมริกันที่สร้างในปี พ.ศ. 2550 อำนวยการสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์พิคเจอร์ส และโจเซฟสันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ออกฉายครั้งแรกในเทศกาล London Film Festival เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2550 จากนั้นได้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 และเข้าฉายในประเทศไทย วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551 ตัวหนังเป็นการผสมผสานระหว่างแอนิเมชัน 2 มิติ ซึ่งวาดด้วยมือ และภาพยนตร์ที่ใช้คนจริงแสดง โดยมีเนื้อหาหลายส่วนที่ล้อเลียนเทพนิยายคลาสสิกที่ผ่านมาในอดีตของวอลต์ดิสนีย์เอง
มหัศจรรย์รักข้ามภพ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 65 ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์เพลง/ตลก (เอมี่ อดัมส์) และเพลงประกอบยอดเยี่ยม (That's How You Know) แต่ไม่ได้รางวัล อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 80 ในสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมถึง 3 เพลง (Happy Working Song, So Close, That's How You Know) แต่ไม่ได้รางวัลเช่นกัน


ตัวละคร :::;

จีเซลล์ (Giselle) แสดงโดย เอมี่ อดัมส์ ตัวเอกของเรื่อง เป็นหญิงสาวช่างฝันซึ่งมีชีวิตอยู่ในดินแดนอันดาเลเซีย ผู้รอคอย 'เจ้าชายในฝัน' และ 'จุมพิตแห่งรักแท้' อันแสนโรแมนติก จนในวันหนึ่งเธอก็สมหวังเมื่อได้พบกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แต่ก่อนที่เธอจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย ก็กลับโดน นาริสซา ผลักตกบ่อน้ำจนข้ามภพไปโผล่ที่ใจกลางเมืองแมนฮัตตัน ของมหานครนิวยอร์ก ตัวละครจีเซลล์นั้น เป็นการรวมเอาบทบาทของเจ้าหญิงดิสนีย์หลายๆ คน เช่น สโนว์ไวท์ (สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด) ซินเดอเรลล่า (ซินเดอเรลล่า) ออโรร่า (เจ้าหญิงนิทรา) แอเรียล (เจ้าหญิงเงือกน้อย) และ เบลล์ (โฉมงามกับเจ้าชายอสูร) มาไว้ด้วยกัน แต่บุคลิกพื้นฐานของเธอจะมีต้นแบบมาจากสโนว์ไวท์มากที่สุด


โรเบิร์ต ฟิลิป (Robert Philip) แสดงโดย แพทริก เดมป์ซีย์ ทนายหนุ่มพ่อหม้ายลูกติด อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก เป็นคนที่จริงจังกับชีวิตอยู่ตลอดเวลา จึงไม่เคยสอนให้ลูกสาวสนใจในเรื่องจินตนาการเพ้อฝัน จนกระทั่งได้มาพบกับจีเซลล์


เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด (Prince Edward) แสดงโดย เจมส์ มาร์สเดน เจ้าชายแห่งอันดาเลเซีย เป็นบุตรบุญธรรมของราชินีนาริสซา มีนิสัยเหมือนเด็กที่ยังบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา รักสนุกไปวันๆ และค่อนข้างหลงตัวเอง ระหว่างที่กำลังท่องป่า เอ็ดเวิร์ดได้ยินเสียงเพลงของจีเซลล์ เขาจึงขี่ม้าตามหาตัวเธอจนพบ และตกลงแต่งงานกับเธอทันที ทว่าในเช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันแต่งงาน เมื่อเอ็ดเวิร์ดรู้ว่าจีเซลล์ตกลงไปในบ่อน้ำ เขาก็รีบกระโดดตามลงไป และไปก่อความวุ่นวายอยู่ในนิวยอร์กพักใหญ่ๆ


นาธาเนียล (Nathaniel) แสดงโดย ทิโมธี สปอล ข้ารับใช้ของราชินีนาริสซา มีจิตใจที่ภักดีต่อนาริสซาเป็นอย่างมาก


แนนซี่ เทรเมน (Nancy Tremaine) แสดงโดย อีดินา เมนเซล แฟนสาวของโรเบิร์ต ที่คบกันมานานถึง 5 ปี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานกัน มีอาชีพเป็นดีไซน์เนอร์


ราชินีนาริสซา (Queen Narissa) แสดงโดย ซูซาน ซาแรนดอน ราชินีแห่งอันดาเลเซีย มารดาบุญธรรมของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เป็นคนจิตใจโหดร้าย เธอไม่ต้องการให้เอ็ดเวิร์ดสมรส เพราะกลัวว่าตนเองจะหลุดจากตำแหน่งราชินี จึงได้หลอกให้จีเซลล์ชะโงกลงไปในบ่อน้ำ และผลักให้เธอตกลงไป จนข้ามภพไปยังโลกแห่งความเป็นจริง (นิวยอร์ก) ที่ทางอันดาเลเซียมีความเชื่อกันว่าเป็นโลกที่มีความสุขน้อยที่สุด บุคลิกของตัวละครนาริสซา มีต้นแบบมาจากแม่มดในเรื่องสโนว์ไวท์ เจ้าหญิงนิทรา และแม่เลี้ยงใจร้ายในเรื่องซินเดอเรลล่า[3]


มอร์แกน ฟิลิป (Morgan Philip) แสดงโดย เรเชล โควีย์ ลูกสาวของโรเบิร์ต อายุ 6 ขวบ พิป (Pip) ให้เสียงโดย เจฟ เบนเน็ตต์ (2D แอนิเมชัน) และ เควิน ลีมา (3D แอนิเมชัน) กระรอกน้อยผู้เป็นเพื่อนของจีเซลล์ ตอนอยู่ที่อันดาเลเซีย สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ แต่เมื่อมาอยู่ที่นิวยอร์ก กลับไม่สามารถพูดได้ จึงต้องพยายามใช้ภาษากาย ทำท่าทางบอกให้เอ็ดเวิร์ดได้รับรู้ว่าจีเซลล์กำลังถูกปองร้าย แต่เอ็ดเวิร์ดกลับไม่ค่อยเข้าใจภาษากายของเขามากนัก


รักข้ามพิภพ จริงหรอ น่าหนุก หว่ะฮ่าๆๆ55

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

Global warming ~ โลกร้อนน น น


Global warming <<ภาวะโลกร้อน>>

Global warming is the increase in the average measured temperature of the Earth's near-surface air and oceans since the mid-20th century, and its projected continuation.
The average global air temperature near the Earth's surface increased 0.74 ± 0.18 °C (1.33 ± 0.32 °F) during the 100 years ending in 2005. The Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) concludes "most of the observed increase in globally averaged temperatures since the mid-twentieth century is very likely due to the observed increase in anthropogenic (man-made) greenhouse gas concentrations" via an enhanced greenhouse effect. Natural phenomena such as solar variation combined with volcanoes probably had a small warming effect from pre-industrial times to 1950 and a small cooling effect from 1950 onward.




These basic conclusions have been endorsed by at least 30 scientific societies and academies of science, including all of the national academies of science of the major industrialized countries. While individual scientists have voiced disagreement with some findings of the IPCC, the overwhelming majority of scientists working on climate change agree with the IPCC's main conclusions.

Climate model projections summarized by the IPCC indicate that average global surface temperature will likely rise a further 1.1 to 6.4 °C (2.0 to 11.5 °F) during the twenty-first century. This range of values results from the use of differing scenarios of future greenhouse gas emissions as well as models with differing climate sensitivity. Although most studies focus on the period up to 2100, warming and sea level rise are expected to continue for more than a thousand years even if greenhouse gas levels are stabilized. The delay in reaching equilibrium is a result of the large heat capacity of the oceans.Increasing global temperature is expected to cause sea levels to rise, an increase in the intensity of extreme weather events, and significant changes to the amount and pattern of precipitation, likely leading to an expanse of tropical areas and increased pace of desertification. Other expected effects of global warming include changes in agricultural yields, modifications of trade routes, glacier retreat, mass species extinctions and increases in the ranges of disease vectors.

**________^____^________**

หากคนไทยยังไม่ช่วยกัน โลกก็คงจะร้อนเป็นไฟ ...,,, ::

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Sport Day Yeh!!

สีเหลือง เย่
แอโรบิค สีเหลืองของเรา น่ารักจริงๆ
อันนี้ สแตนท์จ่ะ แหล่ม

สต๊าฟ น่ารักทุกคนค่ะ อิอิ

หลีดเดอร์ สวยซะ


แต่พวกเรา สวยกว่าค่ะ เอิ๊กๆ

ถึงจะไม่ได้ที่ 1 แต่ก็ไม่ได้ที่โหล่ละกัน เชอะ !!

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เรื่องแปลก ~จากต่างแดนให้เพื่อนๆดูกัน

ตัวใหญ่เนอะ ถ้าไปทำหม้อไฟคงได้หลายล้านหม้อเลย คิคิ
ลูกหมาหน้าคน แปลกสุดๆ เคยเห็นมั๊ย อิอิ

โห ตัวเบ้อเริ่มเลย ไม่เคยเห็น คงแพงน่าดูเนอะ
โอ๊ะโอ นี่มันอะไรกัน ???

รถไฟเหาะ ฮิ้ว แล้วสิ้นสุดที่ไหนเนี่ย ??? อวกาศหรอ

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

กุหลาบ...ความงามที่มิอาจปฏิเสธ

กุหลาบ...ความงามที่มิอาจปฏิเสธ

ดอกกุหลาบ

ดอกไม้ที่มากมายด้วยความสวย และความหมาย จนมีหลากหลายตำนานให้กล่าวขานกันไม่จบสิ้น
ในศาสนาฮินดูกล่าวว่า เมื่อพระพรหมสร้างโลก พระองค์ก็ทรงเลือกดอกกุหลาบเป็นบรรณาการแด่พระนางลักษมี ชานเผ่าอินเดียแดง ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับดอกกุหลาบว่า
นักรบนาม ทะสูเวนาฮี เมื่อกลับจากการล่าสัตว์ถึงบ้าน เขาพบว่า โตวันซา คนรักของเขา ถูกชนเผ่าอื่นสังหาร ต่อมาเธอได้กลายเป็นดอกกุหลาบ ทำให้ทะสูเวนาฮีเสียใจมาก จึงอธิษฐานว่าเมื่อตายไปขอให้เกิดเป็นต้นกุหลาบที่มีหนามแหลมคม เพื่อคอยปกป้องไม่ให้ใครเข้าใกล้ดอกกุหลาบ
จักรวรรดิโรมัน ที่ปกครองโดยกษัตริย์เนโร พระองค์โปรดปรานดอกกุหลาบเป็นอย่างมาก โดยการซื้อดอกกุหลาบประดับประดางานเลี้ยง และให้โปรยกลีบกุหลาบจากเพดาน ลงมาสู่พื้นตลอดงานเลี้ยง แม้กระทั่งพระเขนยที่หนุนนอน ก็ยังยัดไส้ด้วยกลีบกุหลาบเลยทีเดียว
ชาวโรมัน เชื่อกันว่า ดอกกุหลาบ เป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับ อาถรรพ์ แม้แต่ในการประชุมหากใครต้องการให้เป็นประชุมลับ ก็ให้วางดอกกุหลาบไว้ที่หน้าห้องประชุมนั้น ซึ่งในภาษาละตินคำว่า “Sub rosa” หรือ “Under the rose” ในภาษาอังกฤษ ความหมายก็คือ “ลับสุดยอด” นั่นเอง





พระนางคลีโอพัตรา
พระนางคลีโอพัตรา ผู้เลอโฉม ต้อนรับการกลับมาของแม่ทัพมาร์ค แอนโทนี ด้วยการโปรยกลีบกุหลาบที่ห้องรับรองสูงถึง 20 นิ้วทีเดียว แม้แต่ในเรือพระที่นั่งก็ชโลมด้วยน้ำมันดอกกุหลาบจนหอมอยู่ตลอดเวลา
นครโรดส์ (Rose) ที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามของกรีก ก็ได้ชื่อมาจาก Rhoden ซึ่งแปลว่า ดอกกุหลาบ (Rose) ซึ่งก็แน่แหล่ะค่ะ นครแห่งนี้มีสัญลักษณ์เป็นรูปดอกกุหลาบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ว่ากันว่า นครที่ตั้งอยู่ริมทะเลแห่งนี้ ปลูกดอกกุหลาบนับแสนนับล้านต้น จนกลิ่นของมันหอมไปไกล นับพัน ๆ เมตร จนชาวเรือที่ผ่านไปมาก็ได้กลิ่นหอมอบอวลนี้ไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อขุดซากนครแห่งนี้ก็พบเหรียญที่มีสัญลักษณ์ที่เป็นดอกกุหลาบแทบทั้งสิ้น

เทพอีรอส หรือ คิวปิด โอรสของเทพวีนัส
ที่แปลกก็คือ ชาวกรีกเชื่อกันว่า คำว่า ROSE มาจากคำว่า EROS ซึ่งเป็นโอรสของเทพวีนัส หรือ คิวปิด (กามเทพ) เพราะเมื่อเทพอีรอส แย้มสรวลคราใด ก็จะกลายเป็นดอกกุหลาบเสียทุกครั้งไป
สีแดง ก็ เชื่อว่า คือโลหิตของเทพวีนัส ส่วนกลิ่นหอมกรุ่นของกุหลาบ เกิดจากเทพอีรอสได้ทำน้ำอมฤตหกลงไปที่ใจกลางของดอกกุหลาบนั่นเอง
กุหลาบ ใช่ว่าจะถูกใจกับสตรีเท่านั้น แม้แต่บุรุษเพศ ก็หลงใหลกับความสวย ของมัน ไม่ต่างกันเลย........

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

หอไอเฟล


หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น
เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ปัจจุบันฟอไอเฟลสูงเป็นอันดับที่ 5 ในประเทศฝรั่งเศสและสูงที่สุดในกรุงปารีส ซึ่งอันดับสองคือหอมงต์ปาร์นาสส์ (Tour Montparnasse - 210 เมตร หรือ 689 ฟุต) ซึ่งในไม่ใช้จะถูกแทนที่โดยหออาอิกซ์อา (Tour AXA - 225.11 เมตร หรือ 738.36 ฟุต)
La tour Eiffel, initialement nommée tour de 300 mètres, est une tour de fer puddlé construite par Gustave Eiffel et ses collaborateurs pour l'exposition universelle de 1889. Situé à l'extrémité du Champ-de-Mars, en bordure de la Seine, ce monument parisien, symbole de la France et de sa capitale est le neuvième site le plus visité du pays en 2006 et le premier monument payant visité au monde avec 6,893 millions de visiteurs en 2007.D'une hauteur de 300 mètres à l'origine, prolongée par la suite de nombreuses antennes culminant à 325 mètres, la tour Eiffel est restée le bâtiment le plus élevé du monde pendant plus de 40 ans. Utilisée dans le passé pour de nombreuses expériences scientifiques, elle sert aujourd'hui d'émetteur de programmes radiophoniques et télévisés.