วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

>>โปรแกรมสแกนไวรัสออนไลน์ Free Scan Virus Online <<

Free Scan Virus Online ก็เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสออนไลน์ หรือเว็บสแกนไวรัสออนไลน์ครับ อย่างที่เคยพูดไปหลายๆเรื่องครับว่าทุกวันนี้เขาจะเอาโปรแกรม หรือ application ไปไว้บนเว็บซะส่วนมากแล้วครับคือเทรนต่อไปมันจะมาแนวนี้หมดครับ เขาเรียกว่า DATA Center ครับ และผมเคยเขียนไว้เว็บเก่าก่อนนี้ไปแล้วละครับ แต่เอามาบอกใหม่ครับ รวมเว็บสแกนไวรัสออนไลน์จากค่าย antivirus ดังๆครับ เอาไว้สแกนเครื่องแต่เน็ตแรงๆหน่อยก็ดีนะ

1. Kaspersky โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆครับ สแกนเจอแต่อาจจะลบไฟล์ไม่ได้นะครับ คือ Detect อย่างเดียวไม่ Delete


2. BitDefender Online Scanner ใช้ได้กับ IE (internet explorer) อย่างเดียวครับ Detect and Remove ได้




3.ESET Online Scanner: อันนี้จากค่าย E-SET หรือเรารู้จักดีใน Nod32 ครับ สามารถ remove malware—viruses, spyware, adware, worms, trojans, and more from any PC






4.. Trend Micro HouseCall: โปรแกรมป้องกันไวรัสค่ายดังจาก Trend Micro อันนี้ hotmail ใช้เป็น anti spam mail อยู่ครับ ใช้ Check ไฟล์ที่ต้องสงสัยได้ครับ ใช้ได้กับ IE and Firefox




5. Panda ActiveScan 2.0: จากค่ายโปรแกรมแอนตี้ไวรัสหมีแพนด้าครับ เอออ panda เฉยๆครับ สแกนได้ไม่สามารถลบได้



6. F-Secure Online Scanner: อาจจะไม่ค่อยคุ้นครับจากค่าย F-Secure ใช้ได้กับ IE





7. McAfee FreeScan: จากค่าย McAfee ครับ อัพเดทดาต่าเบสจาก McAfee โดยตรง

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

>>สีของอุจจาระ<<

คนเราทานอาหารเข้าไปแล้วก็จะถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย โดยเฉพาะวิลลัสในลำไส้เล็ก โดยปกติ กากอาหารที่เหลือหรืออุจจาระก็จะอยู่ในลำไส้ประมาณ 24 - 36 ชั่วโมง จึงจะถ่ายออกมา ถ้านานกว่านั้นควรรีบปรึกษาแพทย์
สีของอุจจาระ
อุจจาระสีเขียว เกิดจากการกินผักหรืออาหารที่มีสีเขียวมากเกินไป แต่ในทารกอุจจาระอาจมีสีเขียวเมื่อได้กินอาหารครั้งแรก
อุจจาระสีแดง เกิดจากการกินอาหารที่มีสีแดงมากเกินไป แต่ถ้าเป็นสีแดงสดของเลือดแสดงว่ามีบาดแผลในลำไส้หรือบริเวณทวารหนัก
อุจจาระสีดำ เป็นอุจจาระที่ตกค้างนานแล้ว หรืออาจมีเลือดออกจากอวัยวะทางเดินอาหารส่วนบน เช่น กระเพาะอาหาร เป็นต้น

วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

>>กินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ มีโทษ<<

หรือไม่ว่า หากเราปรุงไข่แบบ สุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะ ไข่ดาว ไข่ลวก แทนที่จะได้ประโยชน์อาจเป็นโทษต่อร่างกาย

อาหารที่ทำจากไข่ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ต้ม ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ลวก ไข่ตุ๋น ไข่พะโล้ ไข่ยัดไส้ และอีกสารพัดเมนูไข่ คงจะคุ้นปากคนไทยเป็นอย่างดี

แต่รู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า ในไข่ 1 ฟอง ไข่แดงจะเป็นก้อนไขมัน ไม่มีโปรตีน แต่กลับกัน ไข่ขาวจะไม่มีไขมัน มีแต่โปรตีนอย่างเดียว ไข่ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ไม่ว่าเบอร์เล็กหรือเบอร์ใหญ่ สิ่งที่เหมือนกัน ไข่แดง ขนาดเดียวกันหมด แต่ที่ต่างกัน คือไข่ขาว ตรงนี้คนมักจะไม่ค่อยรู้

การกินไข่ดิบ หรือไข่ที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆเช่น ไข่ดาว ไข่ลวก ถ้าไข่แดงเป็นยางมะตูมอาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่ากับกินไข่ขาวที่เป็นยางใส ๆ เพราะไข่ขาวจะย่อยยาก เนื่องจากไข่ขาวดิบทั้งหมดเป็น อัลบูลมิน ถ้าไม่สุกจะทำให้มีปัญหาเรื่องลำไส้ ไม่ค่อยย่อย ยิ่งถ้าเป็นคนแก่จะไม่มีน้ำย่อยมาย่อย อัลบูลมิน

นอกจากนี้การกินแต่ไข่ขาวเพียงอย่างเดียว เพราะกลัวไข่แดงมีคอเลสเตอรอลสูง จะทำให้โปรตีนในไข่ขาวตัวหนึ่ง ชื่อ อะวิดิน ไปจับกับ ไบโอติน ในร่างกาย ซึ่ง ไบโอ ติน เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อเส้นผม และสุขภาพผิว อีกทั้งการกินแต่ไข่ขาวอย่างเดียวร่างกายจะไม่ได้ ไบโอติน ที่อยู่ในไข่แดง แถม อะวิดิน ก็ไปจับกับไบโอตินอีก สรุปว่าต้องกินทั้งไข่ขาวและไข่แดง ด้วยการปรุงสุกเท่านั้น จะเป็นไข่ไก่ หรือไข่เป็ดก็ได้ ถ้าจะให้ดีควรต้มดีที่สุด เพราะถ้าทอดหรือเจียว เรามักจะทอดกับน้ำมันพืช ซึ่งมีโอเมก้า 6 จะยิ่งไปต้านโอเมก้า 3 ในไข่

ด้าน นายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุข 9 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การกินไข่สุก ๆ ดิบ ๆ ไม่ได้ให้ประโยชน์เต็มที่ แถมย่อยยาก และอาจมีเชื้อซาโมเนลลา หรือ อี.โคไล ที่ก่อโรคระบบทางเดินอาหาร และที่สำคัญอาจจะไม่ปลอดจากเชื้อไข้หวัดนก สรุปว่า กินไข่ดิบ ๆ สุก ๆ ไม่มีประโยชน์ สู้กินไข่สุกไม่ได้

ที่ผ่านมาสังคมไทยกลัวไข่มาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด พอพูดถึงไข่ปุ๊บ มองไข่ในเชิงลบ ว่า มีคอเลสเตอรอลสูง จริงอยู่ไข่มีคอเลสเตอรอลสูง แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากด้วย แถมราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับโปรตีนประเภทอื่น ๆ

ก่อนที่จะกินไข่ ต้องดูก่อนว่า สุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไขมันในร่างกายไม่สูง ไม่เป็นเบาหวาน ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไม่เป็นโรคเรื้อรังอะไร ผู้ใหญ่สามารถกินไข่ได้สัปดาห์ละ 3-4 ฟอง แต่ถ้าไขมันในเลือดสูง มีภาวะโรคอ้วน ต้องให้แพทย์แนะนำ โดยสามารถกินได้สัปดาห์ละ 1 ฟอง หรือกินเฉพาะไข่ขาว ซึ่งไม่มีคอเลส เตอรอล แต่มีโปรตีน ส่วนเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบ วัยเรียน ไปจนถึงวัยอุดมศึกษา สามารถ รับประทานไข่ ได้วันละ 1 ฟอง สัปดาห์ละ 7 ฟอง เพราะต้องใช้พลัง งานสูง โดยไข่จะมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทั้ง ด้านร่างกายและ สติปัญญา

ถามว่ากินไข่อย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยหลักง่าย ๆ คือ 1.กินไข่ที่ปรุงสุกเท่านั้น 2.ควรกินไข่ไปพร้อม ๆ กับอาหารหลัก 5 หมู่ ไม่ควรกินไข่อย่างเดียว โดยเฉพาะการกินไข่ร่วมกับผักจะมีไฟเบอร์ช่วยดูดซับคอเลสเตอรอลในไข่ได้ส่วนหนึ่ง 3.ควรกินไข่ในหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายเมนู คนที่มีภาวะไขมันในร่างกายสูง ควรหันมากินไข่ต้ม ไข่ตุ๋น แทนไข่เจียวหรือไข่ดาว 4.เมื่อกินไข่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้ไขมันสูงในวันเดียวกัน เช่น กินไข่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงกินข้าวขาหมู ปลาหมึก กุ้ง 5.กินไข่แล้วออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะลดภาวะ เสี่ยงต่อคอเลสเตอรอลสูงได้.

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

>>10 วิธีเรียนยังไงให้เก่ง <<

10 วิธีเรียนยังไงให้เก่ง
1.มีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งเรียนหนังสือที่บ้าน จำไว้ว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีจะช่วยให้เรามีสมาธิในการเรียน
2.ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าจะอ่านแต่ละวิชา หรือทำการบ้านมากน้อยแค่ไหนและลงมือทำอย่างเต็มที่จนเสร็จ
3.บางวิชาที่ยากๆให้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ช่วยกันติว ช่วยกันเรียน ผลัดกันค้นคว้า ตั้งคำถาม จะช่วยให้เก่งกันยกกลุ่ม
4.มีเวลาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนทุกๆวัน วันละนิดวันละหน่อย ฝึกจนเป็นนิสัย อย่าตั้งใจเรียนหนังสือเป็นพักๆ
5.ฝึกทักษะการเรียนอยู่เสมอๆ เช่น ฝึกอ่านให้เร็วขึ้น จดบันทึกเป็นระบบ จัดระเบียบความคิด และ สรุปเนื้อหาจะช่วยในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
6.นั่งใกล้ครูมากที่สุด จะได้ไม่มีอะไรมาดึง ความสนใจในการเรียนของเรา
7.ทำการบ้านหรือรายงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จทันเวลา ข้อนี้สำคัญมาก เพราะถ้าทำเสร็จเร็วเท่าไร จะมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น
8.จัดลำดับความสำคัญของวิชาที่ต้องทำ เช่น วิชาไหนด่วนที่สุด หรือหัวข้อไหนไม่เข่าใจ ต้องเรียงลำดับไว้ และ ทำ ตามให้ได้
9.ทำความเข้าใจว่าครูผู้สอนแต่ละวิชามีการให้คะแนนอย่างไร คะแนนเก็บเท่าไร คะแนนสอบเท่าไร วางแผนทำคะแนนให้ดีในแต่ละส่วน
10.สำคัญที่สุดในการเรียน ก็คือมุ่งมั่นตั้งใจเรียนไม่มีใครช่วยเราได้ ถ้าตัวเราเองไม่อยากเรียนเก่ง เพราะฉะนั้นจำไว้ว่า Work Smart , Not Hard